เห็นโฆษณาได้แก้วฟรีอยู่หน้าร้านแล้วรู้สึกแก้วน่ารักดี แต่เข้าไปกินคนเดียวคงกินไม่หมด อยากจะชวนพี่รูมเมทไป ก็จำได้ว่านางไม่กินกิมจิ ก็ได้แต่ให้วันเวลาผ่านไป จนวันที่จะแวะซื้อ ซาลาเปา Phoenix Lava ที่สีลมคอมเพล็กซ์ พี่รูมเมทนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า “อยากลองมาม่าเกาหลี ที่เลือกน้ำซุปได้อ่ะ” เราก็ไม่รอช้า รีบเสนอขึ้นมาทันที “ใช่ร้านเรดซันป่ะ ที่นี่ก็มีแวะกินด้วยมั้ย มีโปรโมชั่นได้แก้วด้วยนะ” สุดท้ายเลยได้มาลองสักที
เข้าไปในร้านพอได้ที่นั่ง ก็ไม่รีรอถามถึงเซ็ตโปรโมชั่นที่แถมแก้วทันที พนักงานก็แจ้งรายละเอียดของเซ้ตดังกล่าวให้ฟังอย่างละเอียดว่า ตัวเซ้ตเป็นชุดไหนและทำอย่างไรจึงจะได้แก้ว หลังจากพนักงานอธิบายเสร็จก็สั่งชุดนั้นทันที ในชุดประกอบด้วย ชึกซอกต๊อกปกกี่ ข้าวผัดเรดซัน และ ไก่กิมจิ ซึ่งข้าวผัดเรดซันสามารถอัพเกรดหน้าเพิ่มได้โดยจ่ายเพิ่ม 80 บาท แต่เนื่องจากกินครั้งแรกก็เลยไม่ได้แอดเพิ่มไป พอสั่งเสร็จพนักงานก็ถามว่าจะรับเครื่องเคียงเป็นอะไร ระหว่าง กิมจิ กับ ข้าวโพด ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นข้าวโพดอยู่แล้ว เพราะอีกคนที่มากินด้วยไม่กินกิมจิ 🙂
นั่งสักพักพนักงานก็เริ่มทยอยยกอาหารมาเสิร์ฟ อย่างแรกคือ ชึกซอกต๊อกปกกี่ (เราขอเรียกง่ายๆ ว่า มาม่าเกาหลีละกันนะ ^_^ ) จากที่ตาเห็น ภายในหม้อก็ประกอบด้วย น้ำซุป ผัก แป้งต๊อก เต้าหู้ปลา หมูสไลด์ ไข่ต้ม เส้นบุก (อันนี้ไม่แน่ใจว่าใช้บุกหรือเปล่าแต่ต้มๆไปหาเส้นไม่เจอ) และน้ำซอส
ถัดมาตามมาด้วยข้าวโพด ซึ่งดูแล้วสำหรับเราเหมือนเป็นของหวานซะมากกว่า
ถัดมาเป็น ไก่กิมจิ ทอดกรอบๆ กินขณะยังร้อนก็ฟินไม่ใช่น้อย รสชาติแปลกจากไก่ทอดที่เคยดินแต่ก็อร่อยไปอีกแบบ
ถ่ายภาพรวมซะหน่อยระหว่างรอน้ำเดือด (^_^)
ขณะที่นำเดือดเราก็ยังคงถ่ายรูปเล่น พนักงานเห็น เก้ๆ กังๆ เลยเข้ามาทำการ cooking ให้ ได้เป็นภาพที่เห็น เสร็จแล้วเตรียมตะเกียบโซ้ยได้ทันที พอได้ชิมน้ำ บอกได้เลยว่าอร่อยจริงๆ แต่อยากเพิ่มความเข้มข้นก็เลยสั่งชีสมาใส่เพิ่ม
รอให้ชีสละลายและกินไก่กิมจิไปพลางๆ ระหว่างที่กินไปได้สักพักก็นึกขึ้นได้ว่าในเซ็ตมีข้าวผัดอีกนี่นา แต่ทว่ายังไปมา มองไปด้านหลังเห็นพนักงานกำลังผัดอะไรสักอย่างอยู่
และนี่ก็เป็นที่มาของข้าวผัดเรดซันนั่นเอง
มาแล้วๆ ข้าวผัดเรดซันมาเสิร์ฟแล้ว ยอมรับว่าตอนแรกที่เห็นหน้าตามัน ยังแอบคิดในใจว่าจะกินได้มั้ย จะอร่อยมั้ย พี่รูมเมทก็เลยจัดการลองชิมดูให้ก่อน
คีบๆ ใช้ตะเกียบคีบขึ้นมา แล้วกินเข้าไป สัมผัสแรกถึงกับตาวาว อร่อยกว่าที่คิดไว้ รสชาติคล้ายๆ เหมือนกินซูชิ แต่ลองกินดูอีกที ก็คล้าย บิบิมบับ อยู่เหมือนกัน เหมือนเอาข้าวคลุกกับน้ำซอสโคชูจัง ใส่สาหร่ายและน้ำมันงา เอาเป็นว่าให้ สามผ่าน อร่อยจริงๆ ถ้าได้ไปกินอีก แม้จะไม่มีในชุดที่สั่งก็จะสั่งเพิ่มเลยล่ะ
และนี่ก็เป็นแก้วน้ำที่ได้มา น่ารักถูกใจมากๆ สรุปโดยรวมแล้ว ร้าน The Red Sun ถือว่าอร่อยและใช้ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งรสชาติของอาหาร กับบริการที่ได้รับ และยังมีหลายสาขาให้ได้ไปกิน สะดวกสาขาไหนก็อย่าลืมลองไปทานสาขานั้นนะคะ
Facebook ของทางร้าน : The Red Sun